คาสิโนออนไลน์ UFABET

หลากภาษา หลายชาติ มากไปด้วยวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการกิน การอยู่ ต่างๆนานาหลากหลาย ซึ่งบนโลกของเรานี้ ล้วนแตกต่างกันในเรื่องของวัฒนธรรมด้วยกันทั้งสิ้น วัฒนธรรมการชมฟุตบอลหรือเชียร์ทีมฟุตบอลที่เราชื่นชอบ จนไปถึงการเชียร์นักเตะที่แต่ละคนชื่นชอบ ซึ่งที่บราซิลนั้น วัฒนธรรมการเชียร์ทีมชาติแซมบ้า มีเอกลักษณ์ให้เราได้เห็นกันทั่วโลกมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นดนตรีประกอบการเชียร์ การแต่งหน้า แต่งกายในแบบบราซิลที่ไม่เหมือนใคร แต่ถ้าลองหยั่งรากลึกลงไปของวัฒนธรรมการเชียร์ฟุตบอลบราซิลแบบลงรายละเอียดแล้ว จะรู้เลยว่า พวกเขามักจะเชียร์นักเตะที่เล่นในลีกของประเทศจนมีชื่อเสียง ก่อนที่จะออกไปค้าแข้งในลีกที่ใหญ่ที่สุดอย่างยุโรป นั่นจึงมีคำถามว่า แล้วถ้าหากบางคน มีโอกาสออกไปเล่นกับทีมใหญ่ในยุโรปได้ก่อนที่จะมีชื่อเสียงในลีกบราซิล การลงเล่นในนามทีมชาติของเขาคนนั้น จะได้รับการตอบรับจากแฟนบอลเพื่อนร่วมชาติอย่างไร ซึ่งในยุคนี้ คงหนีไม่พ้นที่จะต้องพูดถึงโรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ แผงหน้าตัวเก่งของสโมสรลิเวอร์พูล ทีมที่กำลังขับเคี่ยวลุ้นแชมป์อยู่ในพรีเมียร์ลีกในเวลานี้นั่นเอง

จุดเริ่มต้นการพิสูจน์ฝีเท้าและตัวตนของฟีร์มิโน่ทั้งในและนอกสนาม มันเกิดขึ้นจากการเริ่มค้าแข้งของเขาในวัย 18 ปี กับสโมสรในบ้านเกิดอย่างฟิเกอร์เรนซ์ ซึ่งการลงเล่นให้กับฟิเกอร์เรนซ์ของฟีร์มิโน่ เขาโชว์ผลงานได้อย่างโดดเด่นให้กับทีมซีเรีย บี บราซิล เป็นอย่างมาก การลงเล่นในลีกทั้งหมด 38 นัด จากปี 2009-2010 และเขาสามารถทำประตูได้ถึง 8 ประตู และนั่นมันเป็นเหมือนใบเบิกทางให้แก่เขา เพื่อเข้าไปสู่สนามรบต่อไปที่แข็งแกร่งและยิ่งใหญ่กว่าที่บราซิล และการได้มาพบกันของฟีร์มิโน่และเอดูอาร์โด้ อูราม ผู้ที่ทำหน้าที่เอเย่นต์ให้กับเขาในตอนนั้น ซึ่งจุดเริ่มต้นของอูรามคือการเป็นพ่อค้าเพชรพลอย และในตอนนี้ เขาก็เปลี่ยนจากอัญมณีที่เป็นวัตถุ มาค้าขายเพชรที่ควรค่าแก่การเจียระไนที่เป็นมนุษย์นั่นเอง

ฟีร์มิโน่ฝีเท้าเข้าตาอูราม แต่ไม่ใช่ตั้งแต่แรกพบ ครั้งแรกที่อูรามเข้ามาหานักเตะเพื่อส่งออกไปทำกำไร ฟีร์มิโน่ไม่ได้อยู่ในรายชื่อของเขาเลย แต่ทางต้นสังกัดของฟีร์มิโน่โน้มน้าวใจ ให้อูรามลองเอาฟีร์มิโน่ไปเก็งกำไรดู ซึ่งสุดท้ายอูรามก็คว้าฟีร์มิโน่เอาไว้ เพื่อไปทำตลาดในเยอรมนี และจากการลงสนามให้กับฟิเกอร์เรนซ์เพียงแค่ 53 นัดจากทุกรายการ และทำไป 12 ประตู บวกกับรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของเซเรีย บี บราซิล ปี 2010 นั่นคงยังไม่มากพอ ที่จะให้แฟนบอลชาวบราซิลรู้จักเขาและจดจำเขาไว้ได้ ในฐานะนักเตะฝีเท้าฉกรรจ์เลือดแซมบ้า ที่ชื่อว่า “ฟีร์มิโน่”

การเดินทางเข้าไปเพื่อหาทีมใหม่ให้กับฟีร์มิโน่ของอูราม เขาใช้เวลาไม่นาน สุดท้ายก็ได้หาต้นสังกัดใหม่ให้ฟีร์มิโน่ได้ นั่นก็คือ ทีมออฟเฟ่นไฮม์ ฟีร์มิโน่ใช้เวลาขัดเกลาฝีเท้าอยู่ที่นี่ถึง 5 ฤดูกาล คือตั้งแต่ฤดูกาล 2010 จนถึง 2015 และการปรับตัวให้เข้ากับสไตล์บอลเยอรมัน เขาใช้เวลาอยู่ 3 ปี สร้างความคุ้นเคยและหาจังหวะที่เขาถนัดในการสร้างสรรค์เกมและประตู จนในฤดูกาล 2013-2014 เขาทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยมและโดดเด่น ด้วยการลงสนามให้กับออฟเฟ่นไฮม์ไป 37 นัดและซัดไปถึง 22 ประตูจากการลงเล่นรวมทุกรายการ นั่นเป็นการสร้างความประทับใจให้กับคล็อปป์ในตอนนั้น สมัยที่คล็ปป์ยังคุมโบรุตเซีย ดอร์ทมุนด์อยู่นั่นเอง และช่วงเวลาทั้งหมดจากปี 2010-2015 ที่ฟีร์มิโน่ค้าแข้งอยู่กับออฟเฟ่นไฮม์ เขาลงสนามรวมทุกรายการ 153 นัด และทำประตูไปได้ 49 ประตู

แต่ผลงานที่ค่อนข้างยอดเยี่ยมของฟีร์มิโน่ในเยอรมนี กลับไม่มีการตีข่าวไปให้ถึงบราซิลเท่าที่ควรจะเป็น ที่นั่นเน้นข่าวคราววงการฟุตบอลในประเทศ หรือข่าวของสตาร์คนดังที่เป็นขวัญใจของคนส่วนใหญ่ในบราซิลยุคนี้ เช่น เนย์มาร์ เป็นต้น จึงทำให้สังคมของแฟนฟุตบอลชาวบราซิลในช่วงเวลานั้น แทบไม่มีใครรู้จักผู้ชายที่ชื่อฟีร์มิโน่เลยสักนิด การออกมาค้าแข้งและเริ่มประสบความสำเร็จในต่างแดนของเขา กลับทำให้แฟนบอลชาวบราซิลลืมภาพของเขาที่เคยลงเล่นเซเรีย บี บราซิล ไปอย่างหมดสิ้น

และผลพวงจากการที่แฟนบอลบราซิลส่วนใหญ่ไม่รู้จักเขา ทำให้การเข้ามาติดทีมชาติบราซิลของฟีร์มิโน่ ต้องอยู่ในฐานะตัวสำรองมาตลอด นับตั้งแต่ที่เขาติดทีมชาติบราซิลครั้งแรกในปี 2014 ในยุคของคาร์ลอส ดุงก้า เขาถูกใช้งานมา ได้อย่างไม่เต็มที่เท่าไหร่นัก เพราะอย่างที่เรารู้กันดี ปัจจัยในการคงอยู่ของโค้ชทีมชาติบราซิลนั้น คุณจะอยู่ในตำแหน่งนี้ได้ ถ้าแฟนบอลส่วนใหญ่ถูกใจคุณ และการที่แฟนบอลมีผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้นักเตะลงสนาม ทำให้ฟีร์มิโน่ที่ไม่เป็นที่รู้จักของแฟนบอลส่วนใหญ่ จึงไม่ได้ออกไปเฉิดฉายเท่าที่ควร นั่นทำให้เห็นข้อแตกต่างอย่างชัดเจน เพราะแฟนบอลบราซิลส่วนใหญ่ยอมรับในตัวและฝีเท้าเชซุส แผงหน้าของทีมเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่ปฏิเสธการมีตัวตนอยู่ของฟีร์มิโน่ในทีมชาติบราซิล แม้ว่าในฟุตบอลโลก 2018 ที่ผ่านมา เชซุสไม่สามารถทำประโยชน์ให้ทีมได้มากเท่าที่ควร แตกต่างจากฟีร์มิโน่ ที่เวลาได้โอกาสลงมาในสนาม เขามักจะสร้างเกมและจบสกอร์ได้อยู่เสมอ แต่ติเต้ก็ไม่อาจที่จะเปลี่ยนแผนผู้เล่นจากเชซุสมาเป็นฟีร์มิโน่ได้แบบ 100 เปอร์เซ็นต์ มันคือความกดดันของคนคุมทีมอย่างติเต้แบบไม่มีทางเลือก ว่าอยากเลือกตัวผู้เล่นให้ถูกใจใคร ระหว่างแฟนบอลหรือว่าตัวเขาเอง

ซึ่งฟีร์มิโน่ก็เข้าใจ ในสภาวะที่กำลังเป็นอยู่ เขาไม่สนใจกับเรื่องที่กำลังดำเนินไปแบบนี้ เขารู้ดี ว่าเขามีหน้าที่ทำอะไร และแค่ลงไปทำมันให้ดีที่สุด มันก็เพียงเท่านั้นที่เขาสควรจะทำ

การสร้างผลงานให้กับลิเวอร์พูลของเขาในเวลานี้ เขากำลังพิสูจน์บทบาทใหม่ในการเป็นแกนเกมบุกของหงส์แดง หน้าที่ที่เพิ่มเข้ามา จากการย้ายตำแหน่งการเล่นตามที่คล็อปป์เล็งเห็นศักยภาพที่มากกว่านั้นของเขา จากเดิม เมื่อครั้งที่เขาลงเล่นให้กับออฟเฟ่นไฮม์ ฟีร์มิโน่รับหน้าที่เป็นมิดฟิลด์ตัวรุก แต่ในเวลานี้ที่แอนฟิลด์ เขาคือสามประสานกองหน้าตัวเป้าของลิเวอร์พูล ด้วยการเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว บวกกับทำเกมเพรสซิ่งได้อย่างยอดเยี่ยมในแบบฟุตบอลบราซิลแท้ๆ ฟีร์มิโน่จึงเป็นกองหน้าที่เข้ามาช่วยเกมรับได้อย่างรวดเร็ว ทั้งกดดันไล่บอลในแดนกลาง รวมถึงบางครั้งที่ลงไปล้วงบอลจากแนวรับของตัวเองก็มี จนถึงเวลานี้ การลงสนามของเขาให้กับลิเวอร์พูลจากทุกรายการ เป็นจำนวนทั้งสิ้น 163 นัด และเขาสามารถตะบันประตูไปได้มากถึง 55 ประตู และยังคงมีโอกาสเพิ่มสถิติสกอร์ได้อย่างต่อเนื่องจากนัดข้างหน้าที่จะมาถึงอยู่ตลอด

ซึ่งภาระหน้าที่ ที่เขากำลังทำอยู่นี้ ก็คือบทพิสูจน์ฝีเท้าทั้งในและนอกสนามที่ฟีร์มิโน่กำลังสร้างทุกอย่าง ให้เป็นไปในทิศทางที่เขาต้องการ ทั้งกับสโมสรและทีมชาติบราซิลนั่นเอง

ติดตามข่าวฟุตบอลดีๆ อัพเดตทุกวันได้ที่ คาสิโนออนไลน์ UFABET

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

สูตรแทงบอล แบบสูงต่ำ

พ่อเผยคาวานี่ไม่แฮปปี้ผีจ่อชิ่งซบโบค

มาพบกับคาสิโนออนไลน์ต่างประเทศ