คาสิโนออนไลน์
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้เข้าไปพูดคุยกับ ซาดิโอ มาเน่ ทันทีที่พวกเขากลับมาถึงยังห้องแต่งตัว หลังจบเกมที่ ลิเวอร์พูล บุกไปถล่ม เบิร์นลี่ย์ 3-0
ในเกมการแข่งขันดังกล่าวถึงแม้ว่าทีมหงส์แดงนั้นจะชนะไปอย่างขาดลอย แต่มีประเด็นร้อนแรงที่ทุกคนต่างก็ให้ความสนใจมากกว่าผลการแข่งขัน นั่นก็คือการที่ มาเน่ ดาวยิงของทีมแสดงอาการฉุนเฉียวเป็นอย่างมากในระหว่างที่เขาถูกเปลี่ยนตัวและกำลังเดินออกมาจากสนาม
ซึ่งเป็นที่ชัดเจนว่าดาวยิงทีมชาติเซเนกัลนั้นรู้สึกไม่พอใจที่ ซาลาห์ ดาวยิงเพื่อนร่วมทีม ไม่ยอมที่จะส่งบอลมาให้กับเขาทั้งที่เขานั้นอยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่าที่จะทำประตูได้ จนกระทั่งมาเน่มานั่งลงที่ม้านั่งของทีมเขาก็ยังแสดงอาการเกรี้ยวกราดและตะโกนบ่นไม่หยุด จนเพื่อนร่วมทีมต้องเข้ามาให้เขาใจเย็นลง
อย่างไรก็ตามทางทีมลิเวอร์พูลก็รายงานว่า มาเน่ นั้นหายโกรธและมีอารมณ์ที่เย็นลงอย่างรวดเร็ว และซาลาห์เองก็ได้นั่งคุยกะมาเน่กันในห้องแต่งตัว ราวกับว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้น
สองดาวยิงคนสำคัญของลิเวอร์พูลทั้ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ซาดิโอ มาเน่ ได้ตัดสินใจที่จะปล่อยให้เหตุการณ์ในเกมเจอกับเบิร์นลี่ย์ทิ้งไว้ข้างหลัง พวกเขาทั้งคู่ปรับความเข้าใจกันได้อย่างรวดเร็วและมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเหมือนกัน
ซาลาห์นั้นเข้าใจดีกว่ามาเน่กำลังโกรธจัด ทำให้เขาเลือกที่จะไม่เข้าไปพูดอะไรในช่วงที่ดาวยิงเซเนกัลนั้นกำลังอารมณ์ร้อนอยู่ เมื่อมาเน่ได้ระบายอารมณ์โกรธออกมาอย่างรุนแรงตอนที่เดินออกจากสนามหลังจากนั้นก็ดูเหมือนว่าเขาจะกลับมามีสติมากขึ้น
นักเตะทั้งสองคนเลือกที่จะลืมเรื่องราวบาดหมางนี้ทิ้งไป และความสามัคคีในทีมหงส์แดงนั้นก็ยังคงดีเยี่ยมอยู่เช่นเคย โดยกัปตันทีม จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ออกมายืนยันถึงถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองดาวยิงว่า “พอมาเน่เดินเข้ามาถึงยังห้องแต่งตัว เขาก็หัวเราะและตลกกับสิ่งที่เขาได้ทำลงไปกับเพื่อนร่วมทีม“
ส่วนซาลาห์นั้นก็รีโพสเรื่องราวอินสตาแกรมของทีมลิเวอร์พูลมาลงในเรื่องราวบนอินสตาแกรมส่วนตัวของเขา เป็นวิดีโอที่แสดงให้เห็นหน้าของ โรแบร์โต ฟีร์มีโน่ กองหน้าชาวบราซิลที่เดินอยู่ตรงกลางระหว่างดาวยิงทั้งสองพร้อมกับทำหน้าที่ติดตลกออกมา
ส่วนทางด้าน เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือของหงส์แดงนั้นก็ออกมาบอกว่าเขานั้นไม่มีความจำเป็นที่จะไปบอกกับซาลาห์ว่า ให้ส่งบอลให้มากขึ้นในจังหวะที่มีโอกาสทำประตูอย่างแน่นอน “ผมสามารถที่จะอธิบายสถานการณ์ 5-6 สถานการณ์ที่ทุกคนต่างก็คิดว่า ผ่านบอลสิ ผ่านบอลได้แล้ว ผ่านสิเว้ย แต่แล้วหลังจากนั้นเขากลับยิงประตูได้ ดังนั้นมันคืออิสระของนักเตะ นักเตะต้องทำการตัดสินใจเหล่านี้เอง ในเรื่องของการผ่านบอลหรือไม่ผ่านบอล“
“เราต่างก็สามารถที่จะทำผิดพลาดกันได้ คุณอาจจะเสียบอล เตะบอลพลาด หรือบางทีคุณก็มองไม่เห็นเพื่อนร่วมทีมของคุณ มันไม่ใช่ว่าคุณไม่สนใจเขา ในบางครั้งคุณอาจจะคิดว่านักเตะนั้นมองเห็นเพื่อนร่วมทีม แต่ที่จริงแล้วเขาอาจจะมองไม่เห็นมันก็เป็นได้“
“มันไม่ใช่ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ แต่แน่นอนว่าด้วยความเป็นกองหน้าคุณก็ต้องมีความท้าทายที่จะต้องทำประตูได้อยู่เสมอ สิ่งที่คุณจะทำนั้นก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ พวกเราจะโยนเรื่องนี้ทิ้งไปแบบ 100% เพราะว่าเราชนะ 3-0 และทุกคนต่างก็แยกย้ายกันไปทำอย่างอื่นแล้ว และพอผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ผมคิดว่าคงจะไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้อีกแล้วนะ” เจอร์เก้น คล็อปป์ กล่าว
ติดตามข่าวฟุตบอลดีๆ อัพเดตทุกวันได้ที่คาสิโนออนไลน์
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น